1. อาร์เซนอล
เริ่มจากอันดับ 1 นั่นก็คือ อาร์เซนอล ได้จ่ายเงินซื้อผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพมากถึง 6 รายเลยทีเดียว แม้จะไม่ได้เป็นพวกแข้งดังระดับ “ซูเปอร์สตาร์” แต่เป็นการซื้อพวกนักเตะอายุน้อยเพื่ออนาคตนั่นเอง ไล่ตั้งแต่ นูโน่ ทาวาเรส ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัว 7.2 ล้านปอนด์, อัลแบร์ แซมบี้ โลกองก้า ย้ายมาจาก อันเดอร์เลชท์ ด้วยค่าตัว 15.75 ล้านปอนด์, เบน ไวท์ ย้ายมาจาก ไบรท์ตัน ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์, มาร์ติน โอเดการ์ด ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์, อารอน แรมส์เดล ย้ายมาจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์
2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อันดับ 2 เป็นของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แข้งใหม่เข้ามาเสริมทัพทั้งหมด 4 คน แต่ในรายของ ทอม ฮีตัน ได้มาแบบฟรีๆ ในช่วงหลังหมดสัญญากับ แอสตัน วิลล่า นั่นเอง จึงมีการจ่ายเงินซื้อเข้ามาทั้งหมด 3 คน ได้แก่ จาดอน ซานโซ่ ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 76.5 ล้านปอนด์, ราฟาเอล วาราน ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์
3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อันดับ 3 เป็นของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลงทุนคว้า แจ็ค กรีลิช มาจาก แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัวเป็นสถิติแพงที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษสูงถึง 100 ล้านปอนด์เลยทีเดียว และได้ดึงนักเตะดาวรุ่งเข้ามาเสริมทัพอีก 2 ราย นั่นก็คือ ไคลเวิร์ธ อกีลาร์ ย้ายมาจาก อลิอันซ่า ลิม่า ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์
4. เชลซี
อันดับ 4 เป็นของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ซึ่งมีการคว้าแข้งใหใเข้ามาเสริมทัพทั้งหมด 3 ราย แต่ในรายของ มาร์คัส เบตติเนลลี่ เป็นการเซ็นฟรีมาจาก ฟูแล่ม ส่วนในรายของ ซาอูล นิเกซ เป็นการยืมตัวมาจาก แอตเลติโก มาดริด จึงมีการจ่ายเงินซื้อเพียงแค่คนเดียว นั้นก็คือ โรเมลู ลูกากู ย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวเป็นสถิติแพงที่สุดของสโมสรสูงถึง 97.5 ล้านปอนด์
5. แอสตัน วิลล่า
ปิดท้ายด้วยอันดับ 5 เป็นของ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า เพราะได้เงินจากการขาย แจ็ค กรีลิช ซึ่งได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ จึงสามารถนำมาเล่นแร่แปรธาตุเพื่อนำไปซื้อแข้งใหม่ได้หลายคนเลย แต่มีการจ่ายหนักเพื่อคว้านักเตะฝีเท้าดีทั้งหมด 3 ราย นั่นก็คือ เอมิเลียโน่ บูเอ็นเดีย ย้ายมาจาก นอริช ด้วยค่าตัว 33 ล้านปอนด์, เลออน ไบลี่ย์ ย้ายมาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์
