4 ประเด็นร้อน “ลิเวอร์พูล” ได้แค่เจ๊า “เวสต์บรอมวิช อัลเบียน”

1.ครึ่งแรกเหมือนฝัน-ครึ่งหลังหนังคนละม้วน!

โดยเฉพาะการขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ดุดันแบบสุดๆ สามารถครองบอลเข้ากรอบเขตโทษแบบได้ลุ้นหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครโผล่มาจบสกอร์ได้เลย อย่างไรก็ตาม หงส์แดง ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 สมใจในนาทีที่ 12 จากจังหวะที่ โจเอล มาติป เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน หลุดไปยิงตุงตาข่าย แต่สุดท้ายก็ปิดฉากครึ่งแรกด้วยการนำแค่ประตูเดียว ซึ่งยังไม่สามารถไว้วางใจอะไรได้ทั้งนั้น แม้คู่แข่งคือรองบ๊วยของตารางก็ตาม

จากนั้นในครึ่งหลัง แซม อัลลาไดซ์ กุนซือคนใหม่ของเวสต์บรอมวิช แก้เกมมาได้แบบสุดเซอร์ไพรส์ กล้าเปิดเกมรุกสู้ลิเวอร์พูลมากขึ้นเล็กน้อย เล่นตามแผน ไม่วู่วาม ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ทำให้หงส์แดงมีอาการรวนและช็อตไปดื้อๆ กระทั่งช่วงท้ายเกม นาทีที่ 82 เคอร์ติส โจนส์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งลิเวอร์พูล

2.โจเอล มาติป เจ็บ ทำหลังยวบ

โจเอล มาติป อยู่ในสนามเขาคือนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดของลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็นการแย่งบอล สกัดบอลต่างๆ การขึ้นเกมจากแดนหลัง และยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ มาเน ยิงขึ้นนำด้วย แต่พอเขามามีอาการบาดเจ็บบริเวณขาหนีบจนเล่นต่อไม่ไหวและถูกเปลี่ยนตัวออกไปในนาทีที่ 60 ก็ดูเหมือนจะเริ่มมีสัญญาณไม่ดีอะไรบางอย่าง

เมื่อลิเวอร์พูลต้องมาเสียประตูตีเสมอจากลูกตั้งเตะในช่วงท้ายเกม เพราะไม่แน่ว่าถ้า มาติป อยู่ในสนาม ความสูงและความยอดเยี่ยมในการเล่นลูกกลางอากาศของเขาอาจจะช่วยทีมให้รอดพ้นการเสียประตูก็เป็นได้ และต้องบอกตรงๆ

3.คลอปป์เปลี่ยนตัวน่าแปลกใจ

ถ้าไม่นับที่จำเป็นต้องส่ง รีส วิลเลียมส์ ลงมาแทน มาติป ที่เจ็บ การเปลี่ยนตัวอีก 2 ครั้งของคลอปป์ในเกมนี้ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลยทีดียว เพราะเมื่อทีมโดนตีเสมอ สิ่งที่ต้องทำคือการส่งตัวผู้เล่นที่มีความกระตือรือร้นและทำประตูได้ลงมา แต่กลับเลือกที่จะส่ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน ลงมาซะอย่างนั้น แทนที่จะเป็น ทาคูมิ มินามิโนะ ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก และน่าจะช่วยทีมได้ แค่นั้นยังไม่พอ ยังจะเปลี่ยนตัว ดิวอค โอริกี ลงมาในนาทีที่ 90

4.นำจ่าฝูง แต่ไม่หนาวแล้ว!

จากผลการแข่งขันในนัดนี้ทำให้ หงส์แดง นำจ่าฝูงแบบไม่หนาวอีกต่อไป เพราะมีอยู่ 32 คะแนน นำหน้ารองจ่าฝูงอย่าง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน อยู่แค่ 3 คะแนนเท่านั้น แทนที่จะเก็บชัยชนะและหนีไปเป็น 5 แต้ม ซึ่งถือว่าเป็นระยะห่างที่ดีกว่านี้เยอะ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกมมันจบลงแล้ว สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำก็คือเรียกความมั่นใจกลับมาโดยเร็วที่สุดเพื่อให้พร้อมสำหรับเกมต่อไปที่จะเจอกับ นิวคาสเซิลในวันพุธที่จะถึงนี้

ติดตามและไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวของ ข่าวบอล

ข่าวบอลน่าสนใจ