1.เจมส์ มิลเนอร์
นับตั้งแต่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาที่ ลิเวอร์พูลในปี 2015 มิลเนอร์ ได้โอกาสลงเล่นทั้งในตำแหน่งกองกลาง, ปีก และฟูลแบ็ค
แม้จะเป็นส่วนสำคัญของทีมที่คว้าแชมป์ลีกของ เยอร์เกน คล็อปป์ ในฤดูกาล 2019/20 แต่นักเตะวัย 35 ปีรายนี้ได้โอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ค่อนข้างจำกัด โดยได้เป็นตัวจริงเพียง 19 เกมในทุกการแข่งขันสำหรับฤดูกาลที่แล้ว
แน่นอนว่า คล็อปป์ คงหวังที่จะให้ มิลเนอร์ อยู่ต่อ เพราะทุกครั้งที่มีโอกาสได้พูดถึงนักเตะรายนี้ เขามักจะพูดถึงด้วยความชื่นชมเสมอ ทั้งในฐานะนักเตะและในฐานะผู้นำของเหล่าแข้งรุ่นน้อง
2.ดิว็อค โอริกิ
แม้จะไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมมาได้เลย แต่เขาก็ดูจะเป็นที่รักของ เดอะ ค็อป ไม่น้อย ทั้งจากการยิงประตูสำคัญๆและทัศนคติในการก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่ปริปากบ่นถึงโอกาสที่ได้รับ
ในฤดูกาลที่แล้วเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกเพียงสองเกมเท่านั้นเพราะการเข้ามาของ ดิโอโก โชต้า
แม้ในซีซั่นนี้หัวหอกวัย 26 ปีจะออกสตาร์ทได้อย่างน่าประทับใจ แต่มันก็น่าจะดีกว่าหากเขาย้ายไปเล่นที่อื่นอย่างสม่ำเสมอเพื่ออนาคตของตัวเอง
3.ลอริส คาริอุส
ในขณะที่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ โอริกิในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล เกิดขึ้นในรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่กับ คาริอุส กลับเป็นตรงกันข้าม
นักเตะวัย 28 ปีย้ายมาจาก ไมนซ์ ในปี 2016 และสามารถแย่งตำแหน่งมือหนึ่งมาจาก ซิมง มินโญเลต์ มาจนได้ เพียงเพื่อจะมาพลาดท่าในรอบชิงฟุตบอล ยุโรป ปี 2018 กับ เรอัล มาดริด
คาริอุส ไม่ได้เล่นให้ หงส์แดง อีกเลยนับตั้งแต่เกมนั้น – โดยเขาใช้เวลาระหว่างนั้นไปกับการยืมตัวที่ เบซิคตัส และ ยูเนียน เบอร์ลิน ก่อนจะกลับมาที่ เมอร์ซีย์ ไซด์ และไม่สามารถหาทีมใหม่ได้ อย่างน้อยก็จนกว่าสัญญาจะหมดลงในปีหน้า
4.อเดรียน
มือกาวชาว สเปน ย้ายเข้ามาในฐานะแบ็คอัพของ เบ็คเกอร์ หลังหมดสัญญากับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก่อนจะสร้างความประทับใจได้ทันทีในการยิงจุดโทษกับ เชลซี ในซูเปอร์คัพ
เขาได้โอกาสงเล่นถึง 11 เกมในลีก ช่วงที่ อลิสซง ไม่อยู่ ในฤดูกาล 2019/20