1. โอกาสไป UCL ของ หงส์ อยู่ในมือตัวเองแล้ว
ชัยชนะในเกมนี้ช่วยให้ ลิเวอร์พูล กระโดดแซง เวสต์แฮม ไปอยู่ในอันดับ 5 ทันทีโดยที่พวกเขาตามหลัง เชลซี อยู่ 4 แต้มและ เลสเตอร์ อีก 6 ในขณะที่แข่งน้อยกว่าทั้งคู่อยู่เกมนึง
นอกจากนี้ เลสเตอร์ และ เชลซี ยังต้องเจอกันเองอีกในเกมกลางสัปดาห์หน้าหลังจากรอบชิง เอหเอ คัพ ในสุดสัปดาห์นี้
2. แซงหน้าตำนาน
ประตูของ บรูโน ช่วยให้เขาแซงหน้า แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้สำเร็จกับการเป็นกองกลางที่ทำประตูมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลด้วยจำนวนรวม 28 ประตูก่อนที่จะตามมาไม่ห่างนักกับ ยายา ตูเร ด้วยจำนวน 24 ประตูในอันดับที่ 3
3. ยังเมินเราลงอยู่ไหม เซาต์เกธ
แบ็คขวา ลิเวอร์พูล ถูกยกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมนี้โดย สกายสปอร์ตส จากการจ่ายบอลเข้าสู่พื้นที่อันตรายได้ถึง 5 ครั้งและเปลี่ยนเป็นแอสซิสต์ได้ 1 ครั้งและการเติมเกมรุกอย่างไม่หยุดหย่อนในเกมนี้ที่มีผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ มานั่งดูถึงข้างสนาม คงเป็นเรื่องยากหากเขาจะไม่หนีบแข้งรายนี้ไปลุยศึก ยูโร 2020 ด้วย
4. โน แม็คไกวร์ โน ปาร์ตี้
2 เกมหลังสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คู่แข่งอย่าง เลสเตอร์ และ ลิเวอร์พูล ต่างก็เป็นเกมที่ แฮร์รี แม็คไกวร์ ไม่สามารถลงสนามได้อันเนื่องมาจากอาการบาดเจ็บในเกมกับ แอสตัน วิลลา เมื่อสุดสุปดาห์ที่ผ่านมา
5. แฟนบอลกำลังจะกลับมา
เกมในคืนนี้จะเป็นนัดสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเล่นโดยไร้แฟนๆเข้าชม เพราะนับตั้งแต่เกมหน้ากับ ฟูแลม เป็นต้นไป รัฐบาลและสมาคมจะอนุญาตให้แฟนบอลเข้าไปในสนามได้แล้วเบื้องต้น 10,000 คน