1. ความเด็ดขาดในพื้นที่สุดท้าย
เกมที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ออกสตาร์ทด้วยการที่ หงส์แดง เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่การโจมตีในพื้นที่สุดท้ายของพวกเขาที่กลายเป็นปัญหาเมื่อไม่อาจฝ่าด่านแนวรับ จิ้งจอกสีน้ำเงิน ที่มี ชาก์ลาร์ โซยุนชู และ จอนนี อีแวนส์ ยืนจังก้าขวางทางอยู่ได้
โดย อีแวนส์ จบเกมด้วยการกลายเป็นแข้งที่แย่งบอลจากคู่แข่งสำเร็จมากสุดในสนามที่ 4 ครั้งเทียบเท่า จอร์แดน เฮนเดอร์สันและยูริ ติเลมองส์
2. ทีมต้องการมากกว่านี้จาก ฟิร์มิโน และ มาเน
ในวันที่เกมรุกของ หงส์แดง ไล่บี้ เลสเตอร์ อยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า 1 ชั่วโมงโดยทั้ง ซาดิโอ มาเน กับ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน มีบทบาทอย่างต่อเนื่องกับความพยายามในการปั้นเกมรุก
มาเน โดดเด่นกับการลากเลื้อยตะลุยเข้าพื้นที่อันตราย ขณะที่ ฟิร์มิโน ได้แอสซิสต์ให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในประตูเบิกร่อง แต่ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องมีแนวรุกที่สามารถผลิตสกอร์แบ่งเบาภาระของดาวเตะทีมชาติ อียิปต์ หากหวังที่จะลุ้นติดท็อปโฟร์ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล
3. กระดูก เคอร์ติส โจนส์
ด้วยวัยเพียง 20 ปี ศักยภาพของ เคอร์ติส โจนส์ ไม่เป็นที่น่าสงสัยแต่อย่างใดเมื่อเซนส์บอลของแข้งชาว อังกฤษ สามารถตามแข้งรุ่นพี่ทันอย่างเห็นได้ชัด ทว่าเมื่อทีมตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเมื่อต้องตัดสินใจแบบชี้เป็นชี้ตาย โจนส์ ยังคงขาดความเก๋าจากประสบการณ์ที่ยังด้อยอยู่
4. วาร์ดี้ ยังจมูกไว
สถานการณ์ราว 1 ชั่วโมงของเกมที่ คิง พาวเวอร์ รูปเกมตกเป็นของ หงส์แดง โดยมี เจมี วาร์ดี้ เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของ จิ้งจอกสีน้ำเงิน โดยดาวเตะวัย 34 ปีส่งสัญญาณเตือนตั้งแต่จังหวะที่เขาหลุดไปตะบันชนคานอย่างจัง
5. ช็อตผิดพลาด อลิสซอน-คาบัค
ความผิดพลาดแบบที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นบนเวที พรีเมียร์ลีก ดันมาเกิดขึ้นกับแมตช์เดบิวต์ของ โอซาน คาบัค เมื่อการสื่อสารที่ผิดพลาดระหว่างเขากับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ทำให้บอลไปเข้าทาง วาร์ดี้ ฉกไปส่งบอลสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ