เรอัล มาดริด 3-1 ลิเวอร์พูล : ชำแหละทุกความเป็นไปหลังศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกแรก

1. เกอิต้า กลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ คล็อปป์

เยอร์เก้น คล็อปป์ เลือกที่จะดร็อป ติอาโก้ อัลคันทารา จากตำแหน่งมิดฟิลด์โดยส่ง นาบี เกอิต้า ออกสตาร์ทแทนที่โดยคาดการณ์ว่านายใหญ่ชาว เยอรมัน หวังจะใช้ความแข็งแกร่งของมิดฟิลด์ทีมชาติ กินี บดบี้กับแผงมิดฟิลด์เชิงสูงของ เรอัล มาดริด

แต่แผนการของ คล็อปป์ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดเมื่อเจ้าถิ่นใช้ทีเด็ดในการวางบอลยาวของ โทนี โครส ข้ามแผงมิดฟิลด์และแนวรับจนเป็นที่มาของการได้ทั้ง 2 ประตูในครึ่งแรกโดยที่ เกอิต้า แทบไม่ได้มีบทบาทกับทีมเลยทั้งเกมรับและเกมรุก

2. ไลน์แนวรับสูงถูกเผาเครื่อง

แม้ หงส์แดง จะเป็นทีมทีมเยือนและขาดเซ็นเตอร์แบ็คคีย์แมนประจำการแต่พวกเขายังคงดันไลน์แนวรับลอยสูงเช่นเคย ทว่าความพยายามที่จะบีบพื้นที่ เรอัล มาดริด เพื่อให้พวกเขาพบกับความยากลำบากในการเซ็ตเกมกลับไม่เป็นผลและกลายเป็นจุดที่เจ้าถิ่นใช้เล่นงาน เร้ดแมชีน จนได้ 2 ประตูก่อนจบครึ่งแรก

3. ครึ่งแรกที่ไม่เอาอ่าว

ลิเวอร์พูล จบครึ่งแรกด้วยสถิติการพยายามยิงประตูเท่ากับ 0 นับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นพับ หงส์แดง นับตั้งแต่พฤศจิกายน 2014 โดยเกมก่อนหน้านี้ที่พวกเขาไม่ได้มีโอกาสสับไกยิงในครึ่งแรกเลยเกิดขึ้นในการพบกับ เรอัล มาดริด ด้วยเช่นกัน

ขณะที่การเสีย 2 ประตูในครึ่งแรกของรอบน็อคเอาท์ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของ หงส์แดง เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2005 ที่พวกเขาตกเป็นฝ่ายตามหลัง เอซี มิลาน ในนัดชิงชนะเลิศ 3-0

4. ทีเด็ดจากริมเส้นที่หายไป

นอกเหนือจาก นาบี เกอิต้า ที่ตกเป็นเป้าจากฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวในเกมนี้ แข้งอีก 2 รายที่น่าผิดหวังสุดๆ หนีไม่พ้นฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้างอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

ร็อบโบ้ แทบจะหายไปจากเกมในครึ่งแรกเมื่อเจ้าบ้านเน้นเกมรุกที่อีกฝั่งโดยดาวเตะทีมชาติ สกอตแลนด์ ไม่ได้เคลื่อนที่เติมเกมรุกเลยก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นมาบ้างในครึ่งหลัง ทว่าไม่ดีพอที่จะสร้างสรรค์โอกาสลุ้นทำประตูให้กับเพื่อนร่วมทีม

5. ลุ้นอีกเฮือกจากอเวย์โกล

ให้หลังจากการตกเป็นฝ่ายตาม 2 ประตูเมื่อจบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายกลับมาเริ่มต้นครึ่งหลังได้อย่างกระตือรือล้นก่อนที่ลูกยิงแฉลบของ ดิโอโก้ โชต้า จะไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ล่อเป้าในระยะเผาขนเป็นประตูตีไข่แตกตั้งแต่นาทีที่ 51 แต่ หงส์แดง ก็ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมดังกล่าวเอาไว้ได้และกลายเป็น วินิซิอุส ที่สังหารประตู 3-1 อีกราว 10 นาทีถัดมา

ที่น่าผิดหวังยิ่งไปกว่านั้นสำหรับ เดอะค็อป คือจังหวะการได้ประตูของ ซาลาห์ จากลูกที่อาศัยโชคช่วยกลายเป็นเพียงครั้งเดียวที่พวกเขายิงตรงกรอบในเกมนี้จากโอกาสทั้งหมด 7 ครั้ง

ติดตามและไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวของ ข่าวบอล

ข่าวบอลน่าสนใจ

พาเลซอกหักท้ายเกมส์ พาเลซแพ้นักบุญช้าต่อหน้าฝูงชนเป็นประวัติการณ์

พาเลซอกหักท้ายเกมส์ คริสตัล พาเลซ วีเมนส์ อกหักในช่วงท้ายเกมที่แพ้เซาแธมป์ตัน 4-3 ที่เซลเฮิร์สต์พาร์

อ่านเพิ่มเติม »
สองทีมใหญ่แย่งคว้าตัว

สองทีมใหญ่แย่งคว้าตัว ลิเวอร์พูลต่อสู้ราคากับดอร์ทมุนด์ เพื่องแย่งตัวนักเตะลีดส์

สองทีมใหญ่แย่งคว้าตัว ลิเวอร์พูลจะเผชิญกับการแข่งขันจากดอร์ทมุนด์ สำหรับอาร์ชี่ เกรย์ สองทีมใหญ่แย่ง

อ่านเพิ่มเติม »
เบิร์นลีย์ทีม

เบิร์นลีย์ทีม กอมปานีสอดคล้องกับสไตล์การเล่น แต่สถิติไม่เป็นลางดีสำหรับเบิร์นลีย์

เบิร์นลีย์ทีม ทีมของแวงซองต์ กอมปานีทำประตูได้มากที่สุดในแชมเปี้ยนชิพ เบิร์นลีย์ทีม ฟุตบอลมักจะสรุปส

อ่านเพิ่มเติม »