5. ดิว็อค โอริกี้ – 2 ประตู
กองหน้าตัวพลิกเกมที่มักจะลงมายิงประตูสำคัญ ๆ ได้เสมอ ๆ โดยในเกม คาราบาว คัพ รอบ 3 ที่พบกับ นอริช และรอบ 4 ที่เจอกับ เปรสตัน เจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามแทนที่ ซาลาห์ และก็ทำได้เกมละ 1 ประตู
4. อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน – 3 ประตู
ตัวรุกชาวอังกฤษรายนี้เล่นได้แทบทุกตำแหน่งตั้งแต่กลางไปหน้าซึ่งดูเหมือนว่าหลังจาก ซาลาห์ ไปรับใช้ชาติเจ้าตัวจะถูกจับมายืนเป็นปีกขวาแถมยังทำได้ค่อนข้างดีด้วยการยิง 2 ประตูจาก 2 นัดหลังสุดในลีก
3. ดิโอโก้ โจต้า – 3 ประตู
หัวหอกชาวโปรตุเกสที่ขยับขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ของทีมในการจบสกอร์อย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ โดย 3 ลูกที่ โจต้า ทำได้เมื่อไม่มี ซาลาห์ ในสนามเกิดขึ้นในเกม คาราวบาว คัพ ทั้งหมดทั้งในรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ เลสเตอร์ และสดๆ ร้อนๆ
2. ฟาบินโญ – 4 ประตู
หลายคนคงสงสัยว่าทำไม ซาลาห์ ไม่ได้ลงสนาม ฟาบินโญ ถึงเป็นคนที่ทำประตูได้เยอะกว่ากองหน้า ซึ่งก็ต้องบอกว่านอกจากความยอดเยี่ยมในการเล่นลูกโหม่งแล้วเจ้าตัวยังมีดีด้านการสังหารจุดโทษ ที่เมื่อ บังโม ไม่อยู่ เขาก็จะรับหน้าทีแทนซึ่งก็จัดไปแล้ว 2 ครั้งอย่างเฉียบขาดในเกมลีก
1. ทาคุมิ มินามิโนะ – 5 ประตู
ตัวรุกชาวญีปุ่นที่แม้โอกาสลงสนามจะค่อนข้างจำกัด แต่ในยามที่ได้รับโอกาสเจ้าตัวก็มักจะไม่ทำให้ผิดหวัง โดยในเกม คาราบาว คัพ คล็อปป์ ไว้ในให้ ทาคุมิ ลงทำหน้าที่แทนหัวหอกตัวจริงอย่าง ซาลาห์ ซึ่งก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมซัด 4 ประตู