อลิสซง ไม่ใช่นายด่านคนแรกที่ยิงได้ในศึก พรีเมียร์ลีก

เพราะเห็นว่าแนวรุกดูฝืดๆ จากการเจาะตาข่ายทีมคู่แข่งไม่ได้แบบถล่มทลายเหมือนอย่างเมื่อก่อน ทำให้ อลิสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตู “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ตัดสินใจวิ่งขึ้นมาเติมเกมในศึก พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด ซึ่งเป็นช่วงท้ายเกมที่ทำท่าว่าจะเสมอกับ เวสต์บรอมวิช 1-1 อยู่แล้ว ก่อนจะสวมบท “ฮีโร่” เป็นคนโหม่งบอลจากลูกเตะมุมเป็นประตูชัยให้ทีมบุกไปเฉือนชนะ 2-1

จากลูกโหม่งแบบสุดเหลือเชื่อของ อลิสซง ทำให้ “หงส์แดง” ยังคงมีลุ้นพื้นที่ “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกต่อไป แม้ตอนนี้จะยังคงรั้งอันดับ 5 แข่ง 36 นัด มี 63 แต้ม แต่ตามหลัง เชลซี ทีมอันดับ 4 เพียงแต้มเดียวเท่านั้น จึงยังมีโอกาสลุ้นชิงโควตาไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ช่วงฤดูกาลหน้าจากอีก 2 เกมเหลือในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้อยู่เหมือนกัน

นอกจากนี้มือหนึ่งทีมชาติบราซิลวัย 28 ปียังได้จารึกชื่อเป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่สอยตาข่ายให้ ลิเวอร์พูล ได้เป็นคนแรกในหน้าประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรในปี 1892 ซึ่งกินเวลามานานถึง 128 ปีเลยทีเดียว และกลายเป็นผู้รักษาประตูคนที่ 6 ที่ยิงประตูในศึกพรีเมียร์ลีกได้ด้วย โดยก่อนหน้านี้มี 5 อดีตนายทวารที่เคยสอยตาข่ายได้ดังต่อไปนี้เลย

ปีเตอร์ ชไมเคิล

ตำนานนายด่านทีมชาติเดนมาร์กโด่งดังจากตอนเฝ้าเสาให้ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด และเคยโหม่งพังประตูให้ทีมที่เคยสร้างชื่อได้ด้วย แต่เป็นเกมฟุตบอลยุโรปในศึกยูฟ่า คัพ นัดที่เปิดบ้าน โรเตอร์ โวลโกกราด 2-2 เมื่อปี 1996 โดยในช่วงบั้นปลายของอาชีพค้าแข้งได้พเนจรย้ายไปค้าแข้งให้อีกหลายๆ สโมสร ก่อนจะจารึกชื่อเป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่สอยตาข่ายในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2001 เมื่อตอนสมัยที่ย้ายซบ แอสตัน วิลล่า และได้จากการเติมเกมขึ้นไปหวดบอลด้วยท่าวอลเลย์เข้าไปตุงตาข่ายในเกมที่บุกไปเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-2

แบร็ด ฟรีเดล

สำหรับคนที่ 2 เคยสวมบทเป็นมือสอง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ระหว่างปี 1997-2000 หลังจากนั้นอดีตนายทวารทีมชาติสหรัฐอเมริกาได้ย้ายไปปักหลักเฝ้าเสาให้กับ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น พร้อมกับโชว์ฝีมือการเซฟตาข่ายได้แบบเหนียวแน่นเหลือเกิน และเคยวิ่งขึ้นไปซัลโวให้ทีมต้นสังกัดในตอนนั้นได้ด้วย โดยเป็นลูกตีเสมอนัดเยือน ชาร์ลตัน 2-2 เมื่อช่วงปี 2004 แต่สุดท้ายกลับลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ 2-3

พอล โรบินสัน

ส่วนคนที่ 3 เป็นอดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษเคยสร้างชื่อจากการเป็นเด็กปั้นของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1998-2004 และย้ายไปโด่งดังกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส โดยเคยสร้างวีรกรรมด้วยการหวดลูกฟรีคิกเพื่อเปิดบอลยาวจากตรงหน้ากรอบเขตโทษฝั่งตัวเองกว่า 75 หลาแล้วลอยโด่งตกลงพื้นกระดอนข้ามศีรษะของ เบน ฟอสเตอร์ นายทวารชาวเมืองผู้ดีของ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด เข้าไปตุงตาข่ายเป็นลูกขึ้นนำ 2-0 ในปี 2007 และจะเป็นฝ่ายเปิดบ้านชนะ 3-1

ทิม ฮาวเวิร์ด

ไปต่อกันด้วยคนที่ 4 เคยสร้างชื่อจากการย้ายมาร่วมทัพ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2003 แต่ไม่ประสบความสำเร็จจากการเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น จึงตัดสินใจย้ายไปเฝ้าเสากับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในปี 2006 และได้สร้างวีรกรรมด้วยการหวดบอลยาวจากในกรอบเขตโทษของฝั่งตัวเองเพื่อเปิดเกมไปข้างหน้าด้วยระยะกว่า 100 หลาเลยทีเดียว แต่ลูกบอลได้ตกลงพื้นสนามแล้วกระดอนข้ามศีรษะของ อดัม บ็อกดาน นายทวารของ โบลตัน ในเวลานั้นเข้าไปตุงต่าข่ายเป็นประตูขึ้นนำในปี 2012 แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายคาบ้าน 1-2