1. ปัญหาหลังบ้านบาดเจ็บ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญของ หงส์แดง
อย่างที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล ณ ปัจจุบัน ประสบปัญหาตัวรับบาดเจ็บกันเป็นว่าเล่นชนิดที่เหมือนมันจะสามารถติดต่อกันได้ ทั้ง โกเมซ ฟาน ไดจ์ค มาติป หรือแม้แต่กองหลังจำเป็นอย่าง ฟาบินโญ และ เฮนเดอร์สัน ก็ยังไม่เว้น ซึ่งมันก็ปฏิเสธได้ยากว่าสาเหตุสำคัญหนึ่งที่ทำให้ทีมผลงานย่ำแย่ในตอนนี้ก็คือปัญหาหลังบ้านบาดเจ็บนี่เอง แม้ว่าเกมล่าสุดพวกเขาจะใช้ 2 ดาวรุ่ง
2. ทูเคิล สร้างกำแพงหินผาให้ สิงห์บลู
รู้หรือไม่ว่าตลอด 9 นัดที่ผ่านมา มีนักเตะเพียงคนเดียวที่สามารถเจาะตาข่ายของ เชลซี ในยุคของ โธมัส ทูเคิล ได้ นั่นคือ ทาคุมิ มินามิโนะ แข้งส่วนเกินของ หงส์แดง ในเกมที่เสมอกับ เซาแธมป์ตัน ไป 1-1 เพียงคนเดียวเท่านั้น ! อันที่จริงพวกเขาเสียไปทั้งหมด 2 ประตู แต่อีกหนึ่งลูกมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ซึ่งเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างกับในยุคของ แลมพาร์ด อย่างสิ้นเชิง ทั้งที่แนวรับก็เป็นชุดเดียวกัน
3. สถิติที่น่าสนใจต่าง ๆ แบบ “หมัดต่อหมัด” ในฤดูกาลนี้
เกมรุก
จำนวนประตูในฤดูกาลนี้ : ลิเวอร์พูล – 47 / เชลซี – 41
ได้จากจุดโทษ : ลิเวอร์พูล – 6 / เชลซี – 6
ยิงได้จากในกรอบ : ลิเวอร์พูล -44 / เชลซี – 38
ยิงได้จากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล – 3 / เชลซี – 3
ยิงได้จากลูกโหม่ง : ลิเวอร์พูล – 8 / เชลซี – 7
เกมรับ
จำนวนประตูที่เสีย : ลิเวอร์พูล – 34 / เชลซี – 25
คลีนชีท : ลิเวอร์พูล – 7 / เชลซี – 12
เสียประตูจากในกรอบ : ลิเวอร์พูล – 30 / เชลซี – 22
เสียประตูจากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล – 4 / เชลซี – 3
บล็อคลูกยิง : ลิเวอร์พูล – 32 / เชลซี – 55
4. คาดการณ์ก่อนเกม
คาดว่ารูปเกมจะออกมาค่อนข้างสูสี โดยทั้งสองทีมจะเน้นครองบอลเปิดเกมบุกแลกกัน แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายน่าจะเริ่มต้นแบบรัดกุมเอาไว้ก่อน นั่นอาจส่งผลให้เกมส่วนใหญ่จะเป็นการสู้กันในแดนกลาง ซึ่งจะวัดกันที่สมาธิและความผิดพลาด แม้เกมรุกของ สิงห์บลู อาจยังไม่เข้าที่เข้าทางนักแต่เกมรับของ หงส์แดง ดูจะน่าเป็นห่วงกว่าหากใช้งานดาวรุ่งลงสนาม