1. เกมนี้ต้องมี “ผู้ชนะ”
หลังจากการพบกันแบบสุดมันส์ในเกม พรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์ก่อนที่จบลงด้วยผลเสมอ 2-2 ดูเหมือนแฟนบอลของทั้งสองทีมจะไม่ต้องรอนานสำหรับการโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งของสองยอดทีมระดับท็อปของอังกฤษ ณ เวลานี้ ซึ่งเสาร์นี้จะต่างออกไปเพราะการที่เป็น เอฟเอ คัพ รอบ 4 ทีมสุดท้าย
2. ตัวแทน เดอ บรอยน์ วอล์เกอร์
เกมดังกล่าว ซึ่งแน่นอนนั่นอาจทำให้ เรือใบสีฟ้า จะไร้ซึ่งสองดาวเตะดังกล่าวในเกมที่พบกับ ลิเวอร์พูล วันเสาร์นี้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามขุมกำลังของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จัดว่าแข็งแกร่งแม้กระทั่งบนม้านั่งสำรอง ฉนั้นการจะส่ง กุนโดกัน หรือจะใช้งาน แบร์นาร์โด้ แทนที่ตำแหน่งของ เดอ บรอยน์
3. หงส์แดง อาจได้เปรียบเรื่องความฟิต
เกมที่ หงส์แดง กุมความได้เปรียบมาถึงสองประตูในนัดแรกทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจใช้นักเตะชุดผสมลงเล่นและพักตัวหลักหลาย ๆ คนอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ซาดิโอ มาเน และ โม ซาลาห์ ไว้บนม้านั่ง ส่วน เรือใบสีฟ้า ที่นำอยู่ประตูเดียวจำต้องจัดชุดเต็มลงบู้แถมเจอทีมที่เขี้ยวสุดๆ
4. หงส์แดง จะแก้ปัญหาแดงกลางอย่างไร ?
เมื่อสัปดาห์ก่อนแสดงให้เห็นแล้วว่าด้วยศักยภาพนักเตะรวมถึงแทคติคการเล่นทำให้เกมกลางสนามของ หงส์แดง ดูจะเป็นรองอย่างชัดเจน ซึ่งการที่ ซิตี้ คุมพื้นที่กลางสนามได้นั้นสร้างปัญหาให้กับรูปเกมของ ลิเวอร์พูล เป็นอย่างมาก แต่แน่นอนกุนซือระดับ คล็อปป์ ย่อมไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนเล่นงานจุดเดิมซ้ำสอง