1. ซาดิโอ มาเน
ผลผลิตจากทีมในเครือข่าย เร้ดบูลล์ กับ ซัลซ์บวร์ก ในลีกสูงสุดของ ออสเตรีย ก่อนที่เขาจะกลายเป็นกำลังหลักของ เซาแธมป์ตัน ระหว่างซีซัน 2014/15 – 2015/16
เดอะเซนต์ส ทำกำไรจากการขาย มาเน ให้กับ ลิเวอร์พูล จากต้นทุน 11.8 ล้านปอนด์ราว 3 เท่าเมื่อ หงส์แดง ทุ่มเงิน 34 ล้านปอนด์ซิวดาวเตะทีมชาติ เซเนกัล ร่วมทัพในซัมเมอร์ 2016
2. จินี ไวนัลดุม
อดีตห้องเครื่องคีย์แมนของ นิวคาสเซิล เจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดของทัพ สาลิกาดง ในฤดูกาล 2015/16 ที่ 11 ประตู
สาลิกาดง ไม่อาจอยู่รอดบนลีกสูงสุดแดนผู้ดีได้ในซีซันดังกล่าวทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยหัวใจสำคัญของทีมรายนี้ เขากลายเป็นสมาชิกของ ลิเวอร์พูล ภายใต้มูลค่าราว 25 ล้านปอนด์
3. ลอริส คาริอุส
นายด่านชาว เยอรมัน อดีตเด็กปั้นในสถาบันลูกหนังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้เติบโตกับ ไมนซ์ 05 และเป็นแข้งอีกรายที่ย้ายจาก บุนเดสลีกา ตามรอย คล็อปป์ มาโลดแล่นใน พรีเมียร์ลีก
คาริอุส ถูกส่งเฝ้าเสาสลับกับ ซิมง มินโญเลต์ อยู่ 2 ฤดูกาล ก่อนที่ความผิดพลาดในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด ซีซัน 2017/18 ส่งผลให้ทีมปราชัย 3-1
4. รักนาร์ คลาวาน
เซ็นเตอร์แบ็คดีกรีทีมชาติ เอสโตเนีย ผู้สร้างชื่อยืนระยะเป็นตัวหลักให้กับ เอาส์บวร์ก เป็นแข้งอีกรายจาก บุนเดสลีกา ที่ตาม คล็อปป์ โยกมาวาดลวดลายใน พรีเมียร์ลีก ที่มูลค่าราว 4.2 ล้านปอนด์
คลาวาน เล่นในถิ่น แอนฟิลด์ เพียง 2 ฤดูกาลสั้นๆ ก่อนที่ซัมเมอร์ 2018 เขาจะถูกปล่อยตัวให้กับ กายารี ด้วยมูลค่าราว 2 ล้านปอนด์ โดยปัจจุบันในวัย 36 ปี
5. โจเอล มาติป
ปราการหลังผู้สร้างชื่อมากับ ชาลเก้ 04 ชุดสร้างประวัติศาสตร์คว้า เมเจอร์โทรฟี เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษกับแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 2010/11 ที่มีแข้ง
มาติป กลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์ในซัมเมอร์ 2016 เมื่อหมดสัญญากับ ชาลเก้ และจรดปากกาเซ็นสัญญากับ หงส์แดง อย่างเป็นทางการแบบไร้ค่าตัวโดยเป็นกำลังหลักของ เร้ดแมชีน